ความหมายของ Economic Chair

สำหรับ Economic Chair นั้นจะเป็นที่นิยมใช้กันมากในสถานที่ทำงาน และไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักที่จะนำไปใช้ในกรณีอื่นๆ นอกเหนือไปจากการใช้ในที่ทำงาน ดังนั้นจึงถูกให้นิยามว่าเป็น "เก้าอี้สำนักงาน" โดยส่วนใหญ่แล้วเก้าอี้ประเภทนี้ จะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในห้องประชุมสำหรับผู้บริหาร หรือใช้ในการต้อนรับลูกค้า แต่ไม่ได้ถูกแบบมาให้ดูหรูหรามากเหมือนกับ Executive Chair เนื่องจากว่าจะเน้นในเรื่องของความคล่องตัวในการใช้งานเป็นหลัก แต่รูปทรงก็ยังคงรองรับในเรื่องของสรีระและความสบายควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ Executive Chair แล้ว ก็จะได้ในเรื่องของความคล่องตัวที่มากกว่า แต่ Executive Chair จะให้ความสบายที่มากกว่าสามารถนั่งได้นานหลายชั่วโมงโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด แต่ถ้าเป็น Economic Chair จะไม่ค่อยเน้นในเรื่องของการใช้นั่งเป็นเวลานานแต่จะเน้นไปที่ความสะดวกและคล่องตัวเป็นหลัก

เก้าอี้ประเภทนี้จะมีทั้งแบบฐานที่มีล้อและแบบไม่มีล้อ ขึ้นอยู่กับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบบที่มีล้อนั้นจะให้ความคล่องตัวที่มากกว่า และโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นจะมีพนักวางแขนด้วย เพื่อช่วยพักแขนโดยไม่ต้องวางแขนบนโต๊ะ หลายๆ แบบนั้นจะสามารถที่จะปรับระดับความสูงของเบาะนั่งได้ โดยจะมีกระบอกไฮดรอลิคเป็นแกนกลางใช้ในการปรับระดับและมีคันโยกสำหรับผู้ใช้ในการปรับระดับตามความต้องการ วัสดุที่ใช้หุ้มเบาะนั้นก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น หนังแท้, หนังเทียม, ผ้า, ตาข่ายไนล่อน หรือแม้กระทั่งผสมผสานใช้งานร่วมกัน โครงสร้างภายในโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไม้ทำให้ไม่สะสมความร้อนเวลาใช้งานเป็นเวลานาน ส่วนประกอบอื่นๆ นั้น พนักวางแขน ฐานล้อและล้อ โดยมากจะทำจากพลาสติกแข็งเกรดดี มีความแข็งแรงสูง ทดแทนวัสดุที่เป็นเหล็ก ที่มีราคาสูงกว่าและผุกร่อนได้ง่ายกว่า ซึ่งทั้งหมดก็จะเป็นคุณลักษณะและความหมายโดยรวมของ Economic Chair

ความสุขที่ได้นั่งอยู่บน...Recliner

เมื่อกล่าวถึงเก้าอี้สำนักงาน นั่นก็หมายถึงว่าคุณจะต้องนั่งตัวให้ตรง เพื่อไม่ให้รู้สึกปวดหลังในขณะที่กำลังทำงาน สายตาตรงมองตรงไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มือต้องอยู่ในระดับที่พอดีกับแป้นคีย์บอร์ด และเท้าจะต้องแตะอยู่ที่พื้นไม่นั่งไขว่ห้าง นิยามทั้งหมดเหล่านี้จะถูกลบไปโดยสิ้นเชิงเมื่อนำมาใช้กับ Recliner

เก้าอี้สำหรับผ่อนคลายโดยเฉพาะ

เมื่อผ่านการทำงานมาอย่างหนัก เกิดความเครียดรู้สึกว่าเริ่มไม่สบายตัวและอึดอัด แน่นอนว่าคุณกำลังมองหาเก้าอี้สักตัวหนึ่งเพื่อช่วยขาของคุณที่รู้สึกว่าเมื่อยล้าเอามากๆ และถ้าเป็นเก้าอี้โดยทั่วไปรับรองได้ว่าคุณจะได้รับความสุขและการผ่อนคลายไม่เต็มที่อย่างแน่นอน และอย่างมากก็เพียงแค่ 40 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่ถ้าต้องการผ่อนคลายแบบเต็มที่เห็นทีว่าจะต้องเลือกเก้าอี้แบบพิเศษอย่าง Recliner

เนื่องจากว่าเก้าอี้ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับการผ่อนคลายโดยเฉพาะ คุณไม่จำเป็นต้องนั่งตัวตรง ตาไม่ต้องมองตรงไปข้างหน้า เท้าไม่จำเป็นที่จะต้องแตะพื้น แต่ใช้เก้าอี้ตัวนี้อย่างผ่อนคลายที่สุด ศีรษะวางพาดไปที่พนักพิงไม่ต้องเกรงและถ้ามีหมอนนุ่มๆ สักใบมารองจะดีมาก มือจะวางไว้ที่ใดก็ได้ตามแต่ความต้องการ และเท้าก็ยืดออกไปให้สุดวางไว้ที่วางพนักเเท้าที่เตรียมไว้เรียบร้อย และถ้าได้อยู่ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างในร่มไม้ที่มีอากาศสดชื่น จะช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น และคุณก็เริ่มที่จะผ่อนคลายความตึงเครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลง และหลับได้อย่างสบาย

เก้าอี้กับอายุการใช้งาน

สิ่งที่เราต้องใช้นั่งอยู่เป็นประจำทุกวันนั่นก็คือเก้าอี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าจะวันใดก็วันหนึ่งต้องพังอย่างแน่นอน แต่เราจะทำอย่างไรให้อุปกรณ์ชิ้นนี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาหลายสิบปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครหลาย ๆ คนยังไม่เคยรู้ ซึ่งเราก็มีวิธีง่าย ๆ ในการดูแลให้เก้าอี้นั้นดูใหม่อยู่เสมอและยังคงใช้งานได้ไปอีกนาน

การดูแลรักษา

1. ถ้าเป็นเบาะหนังให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมทั้งขาด้วย ถ้าเป็นเบาะผ้าต้องหมั่นดูดฝุ่นเป็นประจำ
2. เบาะหนังให้เคลือบเงาด้วย waxy เพื่อยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความเงางาม
3. หมั่นตรวจสอบดูว่ามีชิ้นส่วนใดโยกคลอน เนื่องมาจากสกรูที่ใช้ยึดนั้นหลวม ถ้าตรวจพบต้องขันให้แน่น
4. ชิ้นส่วนที่มีการหมุนอาจต้องใช้น้ำมันหรือจารบีในการหล่อลื่น ศึกษาจากคู่มือการใช้งานหรือติดต่อผู้ผลิตโดยตรง
5. ถ้ามีล้อ ต้องตรวจสอบสภาพว่ามีการแตกร้าวหรือชำรุดหรือไม่ ถ้าพบต้องเปลี่ยนใหม่
6. อุปกรณ์ที่เป็นกระบอกลม ต้องอัดแรงดันให้อยู่ในกระบอกตามปริมาณแรงดันที่ทางผู้ผลิตกำหนดมาเท่านั้น

การใช้งานอย่างถูกวิธี

1. เก้าอี้ที่มีขนาดเล็ก จะไม่สามารถรับน้ำหนักได้เกินกว่า 70 กิโลกรัม
2. พนักพิงแขนไม่ควรโยกไปมา เพราะจะทำให้ชำรุดที่ตัวยึดได้
3. ในขณะนั่งและหมุนต้องระวังสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำให้เบาะขาดได้
4. ไม่ควรกระโดดกระแทกลงบนเก้าอี้ เพราะอาจทำให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
5. ควรเลื่อนล้อเลื่อนอย่างช้า ๆ เนื่องจากล้อมีขนาดเล็กและไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว

เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะมีเก้าอี้ที่เก็บไว้ใช้งานได้อย่างยาวนาน

มารยาทในการร่วมรับประทานอาหารบนโต๊ะแบบไทย

ในกรณีที่ได้รับเชิญไปยังงานเลี้ยงต่างๆ โดยเจ้าภาพที่เชิญมานั้นเป็นที่รู้จักกับเราเป็นอย่างดี หรือเพิ่งได้รู้จักกันก็ตาม แน่นอนว่าในงานจะต้องมีการจัดเลี้ยงรับประทานอาหาร เพื่อให้เกียรติกับแขกที่มาเยือนและเป็นขนบธรรมเนียมที่มีมาอย่างยาวนาน ดังนั้นแล้วสิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องปฏิบัติให้เหมาะสมและเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเองนั่นก็คือ "มารยาทในการร่วมรับประทานอาหารบนโต๊ะ"

ในการเสิร์ฟอาหารแบบไทยนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ เสิร์ฟอาหารทั้งหมดไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว และแบบค่อยๆ ทยอยเสิร์ฟมาทีละอย่าง ซึ่งก็จะมีมารยาทในการปฏิบัติโดยแบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้

1. ถ้าไม่สามารถมาร่วมงานได้ จะต้องแจ้งให้เจ้าภาพทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
2. เตรียมเครื่องแต่งกายที่สุภาพและเหมาะสมกับงานให้พร้อมก่อนจะไปร่วมงาน
3. ไปถึงสถานที่จัดงานก่อนที่จะเริ่มงานประมาณ 10 นาที และไม่ควรไปเร็วหรือช้าไปกว่านั้น
4. เมื่อไปถึงหน้างานสิ่งแรกที่ควรทำคือ พบปะกับเจ้าภาพก่อน และเข้าไปแสดงความยินดีอย่างจริงใจ ด้วยใบหน้าที่แจ่มใส
5. ทักทายและพูดคุยกับแขกท่านอื่นที่มาร่วมงานด้วย เพื่อสร้างสัมพันธไมตรี และได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น
6. เวลาที่เดินเข้าไปประจำที่โต๊ะ ท่านสุภาพบุรุษควรที่จะขยับเก้าอี้ให้กับสุภาพสตรีที่นั่งข้างๆ ได้นั่งก่อน
7. ในการนั่งที่โต๊ะ ถ้ามีแขกผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะด้วย จะต้องให้แขกผู้ใหญ่นั่งก่อนแล้วจึงค่อย ๆ นั่งตาม
8. งดสูบบุหรี่บนโต๊ะอาหาร
9. นั่งตัวตรง
10. นอกจากรายการอาหารแล้ว ไม่ควรอ่านหนังสือบนโต๊ะอาหาร
11. ถ้ามีผ้าเช็ดมือจัดวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเรา ให้คลี่ออกมาวางไว้ที่ตัก
12. อย่าเล่นช้อน ส้อม และผ้าเช็ดมือ
13. ไม่กางข้อศอกในช่วงเวลาของการรับประทานอาหาร
14. ถ้ามีสิ่งใดตก ควรที่จะแจ้งให้พนักงานเสิร์ฟทราบ
15. อุปกรณ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ จะต้องสังเกตให้ดีก่อนที่จะหยิบมาใช้ว่าเป็นของเรา
16. ในขณะรับประทานอาหาร ไม่ควร ปรับแต่งทรงผม หรือแต่งหน้า โดยเด็ดขาด
17. ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโต๊ะตามสมควร
18. ไม่เอื้อมหยิบหรือตักอาหารผ่านหน้าผู้อื่น ถ้าเพื่อนร่วมโต๊ะส่งให้ควรรับเพื่อเป็นมารยาท
19. ถ้าทำอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น ก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่จำเป็นต้องแก้ตัว
20. ควรถือแก้วน้ำดื่มด้วยมือขวา
21. ในระหว่างการรับประทานอาหารไม่ควรไม่ควรจิ้มฟัน
22. หลังจากที่ได้รับประทานอาหารเสร็จควรรวบช้อนและส้อมไว้คู่กัน วางไว้ในจาน
23. ลุกจากโต๊ะอาหารหลังจากที่คนอื่น ๆ ทานอิ่มแล้ว

เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับผู้อื่นได้อย่างไม่เคอะเขินและไม่กังวลใจ

มารยาทในการรับประทานอาหารบนโต๊ะอาหารแบบสากล

ในการรับประทานอาหารร่วมกันกับบุคคลอื่น ทั้งที่รู้จักสนิทชิดเชื้อกันหรือไม่เป็นที่รู้จักกันก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องพึงระวังไว้เสมอนั่นก็คือ มารยาทที่ปฏิบัติบนโต๊ะร่วมรับประทานอาหาร ปัจจุบันมีน้อยคนมากที่จะใส่ใจถึงเรื่องนี้ แต่ที่นำมากล่าวก็เพื่อชี้นำในการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับตนเอง ได้รับการยอมรับและนับถือจากผู้อื่นที่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน และเป็นมิตรต่อกัน

การร่วมรับประทานอาหารร่วมกันบนโต๊ะมีสิ่งที่ควรปฏิบัติดังนี้

1. ไม่ควรส่งเสียงดังในขณะรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้รบกวนผู้อื่น
2. ไม่เลือกตักเฉพาะอาหารที่ตนเองชอบเท่านั้น ควรตักอาหารอื่นที่วางอยู่บนโต๊ะ เพื่อให้เกียรติกับผู้เป็นเจ้าภาพ
3. ควรตักอาหารแต่พอดีคำ ไม่ตักอาหารพูนช้อน
4. อย่าบ่นถ้าอาหารไม่ถูกปาก
5. ไม่ควรที่จะบังคับให้แขกรับประทานอาหารอย่างใดที่เราต้องการให้ทาน เพราะจะทำให้แขกรู้สึกอึดอัดใจ
6. พยายามพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะบ้าง อย่างมีมารยาท เพื่อไม่ให้เกิดความเงียบเหงาและน่าเบื่อหน่าย
7. ไม่ควรที่จะกล่าวคำนินทาในระหว่างรับประทานอาหาร
8. นั่งตัวตรง ไม่ก้มหน้า ไม่ห่อไหล่ ให้ดูมีลักษณะที่สง่าผ่าเผย
9. ไม่ควรกระดิกเท้า หรือเคาะโต๊ะ เพราะจะทำให้ดูเสียบุคลิค และไม่เหมาะสม
10. ไม่สูบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง
11. ถ้าอาหารที่ยกมานั้นมีฝาปิดอยู่ ให้เปิดฝาออกแล้ววางไว้ในจานเปล่า
12. ห้ามรับประทานอาหารมูมมาม

เพียงขั้นตอนการปฏิบัติเพียงเล็กน้อยเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะร่วมรับประทานอาหารได้อย่างไม่รู้สึกเขินอายหรือไม่มั่นใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างบุคลิคให้กับตัวคุณเอง

การนั่งบนเก้าอี้สำนักงานอย่างถูกวิธี

สำหรับพนักงานออฟฟิสทั้งหลายที่ต้องนั่งทำงานอยู่กับที่ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เก้าโมงเช้ากระทั่งถึงห้าโมเย็นเป็นต้นไป แน่นอนว่าหลาย ๆ คน ต้องประสบปัญหาของอาการปวดหลังเมื่อต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้เป็นเวลาลนานหลายชั่วโมง สาเหตุประการหลัก ๆ นั้นก็เนื่องมาจากการนั่งไม่ถูกวิธี ไม่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ และเก้าอี้ที่นั่งอยู่นั้นก็อาจจะไม่ถูกตามหลักการยศาสตร์ด้วยเช่นกัน

นั่งอย่างไรให้ถูกหลักการยศาสตร์?

1. เลือกเก้าอี้ให้เหมาะสม : อย่างแรกที่ควรจะต้องปฏิบัติ (ถ้าทำได้) ควรเลือกเก้าอี้ที่สามารถรับกับแผ่นหลังได้อย่างเต็มที่ เก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังที่แข็งเกินไปจะทำให้นั่งไม่สบาย พนักพิงหลังควรมีองศาในการพิงที่เหมาะสม สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้
2. ระดับความสูงของเก้าอี้ : ปรับให้วางแขนบนโต๊ะแล้ว แขนท่อนบนกับแขนท่อนล่างตั้งฉากกัน
3. แผ่นหลัง : นั่งให้ก้นเข้าไปชิดกับพนักพิงเพื่อให้แผ่นหลังแนบสัมผัสกับพนักพิงได้อย่างเต็มที่
4. การวางขา : ฝ่าเท้าต้องสัมผัสกับพื้นพอดีไม่ลอย เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
5. หน้าจอมอนิเตอร์ : จะต้องจัดวางให้พอดีกับระดับสายตา ไม่สูงหรือต่ำเกินไป จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าของต้นคอและหลังได้เป็นอย่างดี และจัดวางให้หน้าจอมีระยะห่างจากสายตาประมาณหนึ่งช่วงแขน
6. ผ่อนคลายอิริยาบถ : ในทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงควรจะผ่อนคลายบ้าง ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เคลื่อนไหวสริระให้เกิดการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

เคล็บลับเล็กน้อยต่าง ๆ เหล่านี้สามารถช่วยลดอาการปวดหลังของคุณได้ ดังนั้นจึงควรเริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ เพื่อรักษาแผ่นหลังของคุณไม่ให้ต้องทนต่อความปวดเมื่อยอีกต่อไป

โซฟามีประโยชน์อะไรบ้าง?

ใครๆ ก็ต้องรู้จักโซฟาด้วยกันทั้งนั้นและถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะมีไว้ใช้สักตัวหนึ่ง เมื่อเทียบกับเก้าอี้โดยทั่วไปแล้วโซฟามักจะถูกเลือกเป็นอันดับแรกที่จะถูกใช้งาน เพราะความสบายที่มีมากกว่านั่นเอง ทั้งนุ่ม กว้าง รองรับได้ทุกอิริยาบท ดังนั้นแล้วถ้ากล่าวถึงเรื่องของความสบายแล้วก็คงต้องยกให้เขามาเป็นอันดับต้นๆ

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสบายเท่านั้นที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ แต่ที่สำคัญอีกอย่างนั่นก็คือการใช้งานในลักษณะของกิจกรรมกลุ่มสำหรับครอบครัว ใช้เป็นสถานที่ที่ได้รับการพบปะสังสรรค์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นภายในครอบครัวได้ หรือแม้กระทั่งใช้ในการประชุมสำหรับกลุ่มเล็กๆ ซึ่งสามารถที่จะนั่งประชุมกันได้อย่างยาวนานโดยไม่รู้สึกเบื่อเพราะมีโซฟาช่วยในการผ่อนคลาย หรือแม้กระทั่งใช้ในการนอนก็ยังรู้สึกหลับได้อย่างผ่อนคลาย

สำหรับโซฟาในบางแบบนั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการผ่อนคลายในรูปแบบส่วนตัวโดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการอ่านหนังสือ หรือสำหรับนอนชมวิวทิวทัศน์เป็นต้น

ข้อดีของเก้าอี้หลังตาข่าย

เมื่อคุณต้องการเก้าอี้สำหรับการนั่งทำงานสักตัวหนึ่ง คุณจะนึกถึงเก้าอี้ประเภทไหน?

ความต้องการในการเลือกวัสดุที่จะนำมาตอบสนองความต้องการของตนเองนั้น ล้วนแตกต่างกันออกไปตามความคิดของแต่ละคน อย่างเช่นว่าบางคนนั้นต้องการความหรูหรา มีระดับ ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าเหมาะสมกับฐานะของตนเอง ซึ่งก็เป็นหนึ่งความคิดที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้มีมากขึ้น ลักษณะความคิดในรูปแบบนี้ คงต้องเลือกใช้เก้าอี้หนังแท้สักตัวหนึ่ง รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

แต่ถ้าจะกล่าวถึงในเรื่องของการทำงานที่ต้องนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานนั้น สิ่งหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นเสมอนั่นก็คือ เหงื่อไคลที่มักจะเปียกอยู่ที่พนักพิงหลัง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้หนัง เก้าอี้ไม้ หรือไม่เว้นแม้แต่เก้าอี้ผ้า ทำให้รู้สึกว่าเมื่อนั่งไปนานๆ แล้วรู้สึกไม่สบายตัว อีกทั้งหลังเสื้อก็ยังเปียกชื้นและเกิดเป็นคราบเหงื่อไคลได้อีก ดังนั้นแล้วเก้าอี้หลังตาข่ายจึงได้รับการออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศโดยเฉพาะ ทำให้รู้สึกว่าไม่ว่าจะนั่งทำงานนานเท่าไรก็ตาม ก็ยังไม่รู้สึกอึดอัดหรือรำคาญที่แผ่นหลังและไม่เปียกชื้นหรือเกิดคราบเหงื่อไคลใดๆ ทำให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย อีกทั้งยังมีรูปทรงที่สวยงามและได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของร่างกาย มีความยืดหยุ่นสูงกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ ทำให้ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในท่าไหนก็ยังรู้สึกผ่อนคลายได้

เก้าอี้สำหรับใช้ลดน้ำหนัก

ใครจะรู้บ้างว่าเก้าอี้ที่ใช้นั่งอยู่ทุกวันนั้น สามารถนำมาใช้ในการลดน้ำหนักได้ ด้วยการใช้ท่ากายบริหารที่เหมาะสมโดยใช้เก้าอี้ตัวโปรดที่เรานั่งอยู่เป็นประจำแทนอุปกรณ์กีฬา เก้าอี้ที่ใช้นั้นจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เบาะนั่งไม่โยกไปมาหรือหลวม ล้อที่ฐานสามารถที่จะล็อคให้อยู่นิ่งๆ ได้ เพียงเท่านี้ก็พร้อมสำหรับการลดน้ำหนัก

ท่ากายบริหาร

สำหรับการบริหารกายบนเก้าอี้นั้นมีอยู่มากมายหลายท่าที่สามารถนำมาใช้ได้ แต่ขอแนะนำ 8 ท่าที่ใช้ง่ายๆ และรู้จักกันโดยทั่วไป (ข้อมูลจาก www.dpu.ac.th)

เตรียมความพร้อมโดยการนั่งให้แผ่นหลังอยู่แนวตรงแต่ไม่นั่งพิงที่พนัก หรือนั่งอยู่ที่ตำแหน่ง 1 ใน 3 ของเก้าอี้ และให้เท้าชิดกัน

1.  ท่าที่ 1 : เปิดปลายเท้าทั้งสองข้างออกไปทางด้านข้าง แล้วทำกับการสลับการเปิดส้นเท้าออกไปทางด้านข้าง คล้ายกับการสลับฟันปลา ทำไปเรื่อยๆ กระทั่งขาทั้งสองข้างกางออกไปสุดแล้วทำเหมือนเดิมให้ขากลับเข้ามาชิดกัน ทำซ้ำอย่างนี้ 5 รอบ ท่านี้ใช้ในการบริหารข้อต่อบริเวณเท้าถึงต้นขา



2. ท่าที่ 2 : นั่งในท่าเตรียมพร้อม เหยียดเท้าขวาไปทางด้านหน้าให้ส้นเท้าแตะพื้น ยื่นมือทั้งสองข้างไปจับทางด้านข้างของเก้าอี้แล้วโน้มตัวลงไปทางด้านหน้ากระทั่งรู้สึกตึงที่ต้นขา แล้วสลับมาทำทางด้านขาซ้ายเช่นเดียวกัน ทำสลับกันข้างละ 10 ครั้ง ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อตลอดช่วงขา



3. ท่าที่ 3 : กลับมานั่งท่าเตรียมพร้อม ค่อยๆ ก้มตัวลงอย่างช้าๆ ให้แขนทั้งสองข้างไล่ต่ำลงไปตามขากระทั่งสุดความสามารถ ค้างไว้อย่างนั้นประมาณ 10 วินาที แล้วยืดตัวกลับมานั่งตามเดิม ทำซ้ำ 5 ครั้ง



4. ท่าที่ 4 : อยู่ในท่านั่งเตรียมพร้อม มือทั้งสองข้างจับเอวไว้แล้วเงยหน้าขึ้น เกรงแล้วค่อยๆ เอนตัวไปทางด้านหลังพอตึง ค้างไว้อย่างนั้นประมาณ 10 วินาที หรือนับ 1-10 ก็ได้ ทำซ้ำอย่างนี้ 5 ครั้ง



5. ท่าที่ 5 : นั่งท่าเตรียมพร้อมเหมือนเดิม ใช้มือซ้ายจับเก้าอี้ทางด้านข้างไว้และยืดแขนให้ตรงเพื่อใช้ในการพยุงตัว ยกแขนขวาขึ้นโดยยืดให้สุด เอนตัวไปทางด้านซ้าย สลับแขนไปทางด้านขวาบ้าง ทำสลับไปมาซ้าย-ขวา 10 ครั้ง



6. ท่าที่ 6 : นั่งอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ยื่นมือซ้ายไปจับที่เข่าขวา กางแขนขวาไปทางด้านข้างลำตัวและยืดสุดเหยียดมือให้ตรง ให้แขนและสันมืออยู่ในแนวขนานกับพื้น แล้วกวาดมือขวาไปทางด้านหลังพร้อมกับบิดลำตัวไปในแนวเดียวกันกระทั่งสุดหรือตึง แล้วบิดกลับมากระทั่งมือขวามาจับที่เข่าซ้ายได้ แล้วก็ทำสลับกับแขนซ้ายบ้าง ทำสลับกันข้างละ 10 ครั้ง



7. ท่าที่ 7 : ต่อไปเป็นการฝึกการทรงตัว โดยการไปยืนด้านหลังของเก้าอี้แล้วจับพนักพิงหลังของเก้าอี้เอาไว้ เขย่งปลายเท้า ยืดตัวให้ตรง ปล่อยมือทั้งสองข้างออกจากเก้าอี้ ชูแขนขึ้นไปทางด้านบนให้สุด ค้างไว้อย่างนั้นประมาณ 5 วินาที กลับไปเริ่มต้นใหม่ ทำซ้ำ 5 ครั้ง



8. ท่าที่ 8 : ใช้มือทั้งสองข้างจับพนักเก้าอี้เอาไว้ เหยียดขาขวาไปทางด้านหลังให้ตึง เกร็งค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที ทำสลับกับขาซ้าย ข้างละ 10 ครั้ง

ประโยชน์ที่ได้รับ เป็นการช่วยบริหาร กระดูกสันหลัง, ข้อต่อ และช่วยฝึกการทรงตัว

โพลิไวนีลคลอไรด์ (PVC)

หนึ่งในเทอร์โมพลาสติกที่นำเอามาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายประเภทโดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึงในเคมีภัณฑ์ที่สำคัญต่อทางเศรษฐกิจอยู่ในปัจจุบัน

พีวีซี หรือ โพลิไวนีลคลอไรด์ (Polyvinyl chloride) จะมีคลอรีนเป็นส่วนประกอบรวมอยู่ด้วยและมีโครงสร้างที่ไม่แน่นอน ด้วยส่วนประกอบที่มีโครงสร้างของโมเลกุลนี้ จะมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการนำไปใช้งานที่แตกต่างจากพลาสติกประเภทอื่นๆ

คุณสมบัติโดยทั่วไปของพีวีซี

• ติดไฟได้ช้าและมีการลุกลามได้น้อย เพราะมีส่วนผสมของคลอรีนอยู่ภายในโครงสร้าง
• ทนต่อทุกสภาวะอากาศ
• มีความแข็งแรงและคงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
• ทนต่อสารเคมีต่างๆ และน้ำ
• มีความเป็นฉนวน ต้านทานกระแสไฟฟ้าได้ดี
• ในกระบวนการผลิต สามารถที่จะผสมสีและปรับแต่งสีได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
• สามารถที่จะปรับแต่งคุณสมบัติโดยการเติมสารประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมลงไปได้ สามารถปรับคุณสมบัติในด้านความแข็ง การคงรูป การยืดหยุ่นได้
• สามารถเสื่อมสภาพได้ตามอายุการใช้งาน

สำหรับการนำมาผลิตเป็นหนังเทียมนั้น จะมีการปรับคุณสมบัติให้มีความนุ่มเป็นพิเศษซึ่งเมื่อเทียบกับหนังแท้จะมีความนุ่มกว่า จึงนิยมเอามาผลิตเป็นเบาะสำหรับเก้าอี้ประเภทต่าง ๆ กระเป๋าถือ รองเท้า และอื่น ๆ อีกมากมายหลายประเภท

เส้นใยผ้าไนล่อน

Nylon หรือชื่อในทางวิทยาศาสตร์ Polyamine เป็นพลาสติกที่ได้มาจากกระบวนการ Polymerization ของ Amind กรดอินทรีย์ โดยมีการเพิ่มสารประกอบเพิ่มเติมจำพวกกราไฟต์และโมลิบดินั่ม เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้ดียิ่งขึ้น 

คุณสมบัติของ Nylon

•  ในขณะที่ยังคงเป็นแผ่นฟิล์ม จะมีลักษณะโปร่งใส และเมื่อนำมาทำการหล่อเป็นชิ้นส่วนวัสดุจะทึบแสงและมีสีขาว
• ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น และไม่เป็นอันตราย
• ทนต่ออุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี สามารถนำมาใช้งานได้ในอุณหภูมิที่สูงถึง 120 องศาเซลเซียส ซึ่งไนล่อนจะมีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ประมาณ 180-200 องศาเซลเซียส
• มีความเหนียวและแข็งแรง มีความต้านทานแรงดึงสูง และทนต่อแรงเฉือนได้ดี ทนการกัดกร่อนและการเสียดสี สามารถรับแรงมากๆ ได้ โดยไม่เสียรูป
• มีความยืดหยุ่นได้ดี ทนทานต่อการบิดหรือพับงอได้เป็นอย่างดี
• ป้องกันการซึมผ่านของไขมันได้เป็นอย่างดี
• ป้องกันการซึมผ่านของออซิเจนและกลิ่นต่างๆ
• ไม่สามารถป้องกันความชื้นได้ดีเท่าที่ควร และสามารถดูดซับความชื้นในอากาศได้
• เมื่อมีความชื้นเพิ่มสูงขึ้น ความสามารถในการป้องกันการซึมผ่านของก๊าซจะด้อยประสิทธิภาพลง

คุณสมบัติของผ้า Nylon

เมื่อนำเม็ดพลาสติกประเภท Nylon หรือ Polyamine มาผลิตเป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งก็จะได้เนื้อผ้าที่เป็นใยสังเคราะห์ ซึ่งก็จะมีความเหนียวสามารถที่จะทนทานต่อการฉีกขาดได้มาก มีความสามารถในการยืดหยุ่นที่ดีและยังสามารถที่จะยืดตัวได้มาก ด้วยคุณสมบัติในการคืนตัวทำให้คงรูปอยู่ได้นาน ยับยาก มีความไวต่อความร้อนเมื่อนำมาอัดจีบจะคงรูปอยู่ได้นาน

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผ้าไนล่อนจะสามารถนำมาทำการซักได้โดยง่ายและแห้งได้เร็ว และด้วยมีความคงทนสูงจึงสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ นำไปอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งก็สามารถทำได้ สามารถนำไปฟอกขาวได้ ผงซักฟอกและสบู่ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อผ้า

ทำความรู้จักกับหนังเทียมที่ดีที่สุดที่เรียกกันว่า "หนัง PU"

หนังเทียมนั้นจะมีหลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 ประเภท นั่นก็คือ หนัง PU หนัง Semi PU หนัง PVC ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนั้นก็จะมีคุณสมบัติและคุณลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

หนังเทียม PU

หนัง PU หรือหนัง Polyurethane หนังเทียมประเภทนี้ จะมีคุณลักษณะของการสัมผัสที่ใกล้เคียงกับหนังแท้มากที่สุดและมีคุณสมบัติดีที่สุดเมื่อเทียบกับหนังเทียมประเภทอื่นๆ คือในกรรมวิธีการผลิตนั้นจะสะอาด ไร้สารตกค้างใดๆ ปนเปื้อนอยู่ในหนังที่ผลิตออกมา และสะอาดมากพอที่จะนำไปผลิตเป็นอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กได้ สามารถเสื่อมและย่อยสลายไปได้เองตามธรรมชาติ เป็นที่นิยมกันในท้องตลาด

หนัง PU นั้นจะมีลวดลายที่สวยงามใกล้เคียงกับหนังแท้ นิยมนำเอามาทำเป็นกระเป๋าแฟชั่น หรือผลิตภัณฑ์แนวแฟชั่นต่างๆ มากมาย และมีให้เห็นกันอยู่บ้างที่จะนำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างเช่นเก้าอี้

หนังเทียมประเภท PU จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน

1. Dry Process หรือที่เรียกกันว่า แบบอบแห้ง
2. Wet Process หรือที่เรียกกันว่า แบบผ่านน้ำ

ทั้งสองแบบนั้นจะประกอบด้วยชั้นวัสดุอยู่ 3 ชั้น คือ ชั้นสี ชั้นกาว และชั้นผ้า แต่สำหรับแบบผ่านน้ำจะแตกต่างออกไปเล็กน้อยตรงที่จะนำเอาหนังไปเคลือบด้วยเนื้อ PU ก่อนเพื่อให้เนื้อมีคุณสมบัติที่คล้ายกับหนังแท้มากขึ้น ซึ่งตรงนี้เองในขั้นตอนในการเคลือบจะต้องเอาไปผ่านน้ำเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่ดีจึงเรียกว่าเป็นแบบผ่านน้ำ

ลักษณะของเนื้อ PU นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด

1. Polycarbonate based PU : มีคุณสมบัติที่มีความคงทนต่อกรด-ด่างได้สูง และมีอายุการใช้งานได้นานถึง 20 ปี
2. Polyether based PU : มีคุณสมบัติที่มีความคงทนต่อกรด-ด่างได้สูง และมีอายุการใช้งานได้นาน 7 ปี
3. Polyester based PU : มีคุณสมบัติที่มีความคงทนต่อกรด-ด่างได้พอสมควร และมีอายุการใช้งานได้นาน 3-5 ปี

หนังแท้

หนังแท้คือหนังที่ได้จากสัตว์ เช่น หนังวัว หนังกระบือ หนังจระเข้เป็นต้น ที่เหมาะสำหรับที่จะนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น เก้าอี้  ก็จะเป็นหนังวัวหรือหนังกระบือ เพราะจะมีราคาที่ถูกกว่าหนังประเภทอื่น อีกทั้งยังหาได้ง่าย ทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ง่าย มีความสวยงามและคงทน

หนังสัตว์ที่นำเอามาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้นจะผ่านกระบวนการฟอกมาก่อนแล้ว ผลที่ได้จากการฟอกนั้นก็จะได้ตามสภาพของหนังที่ได้ฟอก ถ้าบริเวณใดมีแผลหลังจากที่ได้ทำการฟอกมาแล้วและไม่ได้ทำการกลบแผล แผลก็จะยังอยู่ในสภาพใกล้เคียงอย่างเดิม ซึ่งตามกระบวนการผลิตก็อาจจะมีการเจียรหรือผ่าออกไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเพื่อให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด ซึ่งกรรมวิธีการผลิตนั้น ก็จะมีต่างๆ กันใน 3 รูปแบบคือ

1. Full Grain : หรือที่เรียกกันว่า หนังผิว คือหนังสัตว์ที่ไม่ผ่านการเจียรผิวหรือผ่าหน้าหนังออกไป ดังนั้นสภาพของหนังจะยังคงใกล้เคียงกับสภาพผิวจริงมากที่สุด สภาพหนังก่อนทำการฟอกเป็นอย่างไรหลังการฟอกก็จะยังคงเป็นอย่างเดิม ผิวที่ได้ก็จะให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
2. Corrected Grain : หนังผิวที่ผ่านกระบวนการกลบแผล คือจะมีการกลบแผลที่ผิวของหนังโดยการใช้การเจียรที่ผิวหน้าของหนังเบาๆ ทำให้ขนสั้นลงเรียบเนียนขึ้น อาจจะมีการอัดลายเพื่อช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่การสัมผัสก็จะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติน้อยลง
3. Suede : หนังกลับ เป็นหนังที่ผ่านกระบวนการผ่าให้ลึกลงไปในชั้นผิว หนังประเภทนี้สามารถที่จะหลบเลี่ยงแผลได้เกือบทั้งหมด บางส่วนที่เป็นแผลลึกก็อาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง ลักษณะของผิวที่ได้จะเป็นขนฟู ผิวสัมผัสดี เพียงแต่ไม่มีผิวหน้าของหนังอยู่

        เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ ที่ให้ความรู้สึกสบายและเรียบง่ายในจำนวนเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดคงจะเป็น เก้าอี้ เพราะการนั่งเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งที่รองลงมาจากการนอน ทำให้ผู้นั่งคลายความเหนื่อล้าและอ่อนเพลีย สามารถให้มนุษย์เราทำงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้นานกว่าการยืน การนั่งจึงเป็นอิริยาบถที่สะดวกสบายในการทำงานมากที่สุด โดยปกติคนเราไม่สามารถนั่งในท่าใดท่าหนึ่งได้เป็นเวลานาน ๆ หรือนั่งในลักษณะเดิม ๆ ตลอดเวลา 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 

     1.เก้าอี้สำหรับทำงาน 

     2.เก้าอี้สำหรับการพักผ่อนระยะสั้น

     3.เก้าอี้สำหรับการพักผ่อนระยะยาว นอกจากนี้อาจแบ่งเก้าอี้ออกเป็นกลุ่มตามลักษณะของเก้าอี้ได้ เช่น 

        3.1 เก้าอี้ไม่มีพนักพิง

        3.2 เก้าอี้มีที่เท้าแขนและไม่มีที่เท้าแขน  

        3.3 เก้าอี้พักผ่อน  

        3.4 เก้าอี้บุนวม 

        3.5 เก้าอี้นอน

เก้าอี้รับประทานอาหาร

     1.ความสูงของที่นั่ง จะมีความสูประมาณ 400-450 มิลลิเมตร และควรให้ด้านในของข้อพับขาสัมผัสกับที่นั่งอย่างนุ่มนวล

     2.ความกว้างของที่นั่ง ควรมีความกว้างประมาณ 400-450 มิลลิเมตร เพื่อสะดวกในการนั่งและเก็บเก้าอี้เข้าไปด้านในโต๊ะรับประทานอาหาร

     3.ความลึกของที่นั่ง ควรลึกประมาณ 350-450 มิลลิเมตร

     4.มุมเอียงของที่นั่ง ควรทำมุมเอียงประมาณ 5-8 องศาไปทางพนักพิง

     5.เพื่อ ให้ทางเดินอาหารสะดวกเหมาะกับร่างกาย ลักษณะการนั่งรับประทานอาหารจึงต้องอยู่ในท่านั่งตรง ดังนั้นพนักพิงควรทำมุมเอียง 105-110 องศากับแนวราบ และในขณะรับประทานอาหารจะต้องตักอาหารที่อยู่ข้างหน้า จึงทำให้ต้องชะโงกตัวไปข้างหน้าอยู่เสมอ พนักพิงจึงทำหน้าที่เพียงช่วยให้สะดวกสายในบางขณะเท่านั้น 

เก้าอี้นั่งทำงาน

     1.ความสูงของที่นั่ง จะมีความสูงประมาณ 400-450 มิลลิเมตร (ใช้กับโต๊ะสูงขนาด 730-750 มิลลิเมตร) ควรให้ความสูงของเก้าอี้สัมพันธ์กับโต๊ะทำงานเสมอ และสามารถนั่งไขว้ห้างได้

     2.ความกว้างของที่นั่ง ควรมีความกว้างประมาณ 400-450 มิลลิเมตร เพื่อสะดวกในการนั่งการหมุนตัวและการเก็บเก้าอี้เข้าไปด้านในโต๊ะทำงาน

     3.ความลึกของที่นั่ง ควรลึกประมาณ 350-450 มิลลิเมตร รูปแบบของที่นั่งจะมีหลายลักษณะ เช่น รูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้า รูปสี่เหลี่ยมคางหมู วงกลม

     4.พนักพิง ควรทำมุมเอียง 105-110 องศากับแนวราบ ในขณะทำงานจะต้องชะโงกตัวไปข้างหน้าอยู่เสมอ พนักพิงควรมีที่พิงที่อ่อนนุ่ม หรับมุมองศาของพนักพิงได้บ้าง หน้าที่ของพนักพิงคือทำให้ผู้ทำงานได้พักผ่อนในขณะที่หยุดทำงานชั่วขณะ

     5.ความสูงของพนักพิง ควรมีความสูงอยู่ระหว่าง่าหลังคือ ประมาณ 450 มิลลิเมตร หรืออาจออกแบบให้มีความสูงมากกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของเก้าอี้แต่ละแบบ เช่า เก้าอี้ทำงานระดับผู้ริหารควรออกแบบให้พนักพิงสูงเล็กน้อยเพื่อความสง่างาม และเสริมบุคลิกให้แก่ผู้ใช้งาน

     6.ถ้ามีที่เท้าแขน ที่เท้าแขนความมีความสูงจากที่นั่งประมาณ 220-245 มิลลิเมตร และออกแบให้ สามารถกุมมือที่ปลายสุดของที่เท้าแขนได้พอดี

     7.เพื่อความ คล่องตัวในการทำงาน ขาเก้าอี้ทำงานจึงนิยมเป็นแบบแกนกลาง แยกออกมาเป็นแฉก 5 หรือ 6 แฉก และมีล้อ เก้าอี้อาจมีอุปกรณ์เสริม เช่นอุปกรณ์เพื่อปรับความสูงต่ำของเก้าอี้ อุปกรณ์ปรับความยืดหยุ่นของที่นั่งแพนักพิง เป็นต้น 

เก้าอี้พักผ่อน 

        เก้าอี้ พักผ่อนเป็นเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดในบรรดาเก้าอี้ทั้งหมด เรามักใช้งานเก้าอี้นี้เป็นเวลานาน ๆ หลายชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นเก้าอี้ที่บุนวม เก้าอี้รับแขก รวมไปถึงเก้าอี้กึ่งนั่งกึ่งนอน และเก้าอี้นอน

     1.ความสูงของที่นั่ง ต้องมีความสัมพันธ์กับมุมเอียงของพนักพิงเสมอ ถ้าที่นั่งสูงจากระดับพื้นน้อย พนักพิงจะต้องทำมุมเอียงลงระนาบกับพื้นมากขึ้น

     2.พนักพิง ควรทำมุมเอียงตั้งแต่ 110-180 องศากับแนวราบ

     3.ความสูงของพนักพิง ควรมีความสูงไม่ต่ำกว่าบ่าหลังหรือช่วงไหล่หลัง

     4.ความกว้างของที่นั่ง ควรมีความกว้างประมาณ 480-600 มิลลิเมตร ต่อคนหนึ่งคน

     5.ความลึกของที่นั่ง ควรมีความยาวตั้งแต่ด้านหลังของหัวเข่าถึงด้านหลังสุดของกระดูกเชิงกราน เมื่อวัดจากร่างกายขณะนั่งตัวตรง

     6.ที่เท้าแขน ควรมีความสูงจากที่นั่งประมาณ 200-250 มิลลิเมตร เพื่อให้แขนทอดยาวไปตามลำตัวได้พอดีและสามารถหมุนแขนได้อย่างธรรมชาติ

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน

• คอยระวังข้างหลังคุณเอาไว้

ใครก็ตามที่คิดร้ายกับคุณจะสามารถลอบเข้ามา ถึงตัวคุณได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณไม่ทันระวังและจะจู่โจมคุณจากข้าง หลัง ดังนั้นจงทำความเข้าใจเมื่อฮวงจุ้ย เตือนคุณให้ระวังข้างหลังเอาไว้ให้ดีๆต้องแน่ใจว่าคุณจะได้รับการหนุน หลังที่ดีในตำแหน่งที่คุณนั่ง เมื่อคุณนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ต้องแน่ใจว่าหลัง พนักเก้าอี้ของคุณอยู่ในตำแหน่งที่มีกำแพงที่แน่นหนาอยู่ด้านหลังคุณด้วยการ นั่งโดยหันหลังให้กับประตูถือเป็นเรื่องไม่ดีอย่างร้ายกาจและการมี หน้าต่างอยู่ตรงหลังคุณพอดีก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีด้วย จงปิดหน้าต่างในตำแหน่งนี้ด้วยมู่ลี่หนาๆและตั้งสัญลักษณ์ด้านความ สำเร็จในอาชีพการงานเอาไว้ข้างหลังคุณ ซึ่งได้แก่ เต่ามังกร เต่า หรือภาพวาดภูเขา และต้องเป็นแบบที่ไม่มีภาพน้ำประกอบอยู่ภายในภาพด้วย

• หลีกเลี่ยงการนั่งหันหน้าเข้าหากำแพง

โต๊ะทำงานที่วางหันหน้าหากำแพงจะ กลายเป็นตัวถ่วงความเจริญ หากคุณไม่สามารถย้ายตำแหน่งโต๊ะได้ให้แขวนภาพ ทิวทัศน์ที่เป็นทุ่งโล่งกว้างเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของ "โถงแห่งความรุ่งโรจน์" ประจำตัวคุณหรืออาจจะแขวนภาพหงส์ไว้ที่กำแพง ด้านหน้าคุณเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าคุณหันหน้าปะเหมาะกับโอกาสดีๆ มากมายเหล่า นี้จะช่วยต้านผลกระทบในแง่ลบทั้งหลายของการหันหน้าหากำแพงได้และยังจะ ช่วยสร้างเหตุให้คุณได้เปลี่ยนโต๊ะไปยังที่ที่มีฮวงจุ้ยดีกว่าอีกด้วย

• ตั้งไก่

ไก่เป็นสัญลักษณ์ที่ดีที่สุดในการต้านทานการเมืองในสำนักงานหาก คุณต้องคอยหลบเลี่ยงการใช้เล่ห์เพทุบายของผู้ร่วมงานอยู่ล่ะก็ ให้ตั้งไก่ที่มีจะงอยแหลมคมและหงอนโดดเด่นสะดุดตาเพื่อจะได้จิกทึ้งการ เล่นการเมืองที่ไม่พึงปรารถนาทิ้งไป สัญลักษณ์ที่ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ การนำจักจั่นหยกมาสวมใส่เป็นสร้อยข้อมือ

• ตั้งลูกคริสตัลเพื่อดูดซับพลังชี่ที่ไม่ดี

ไม่มีสิ่งใดที่สร้างความมั่น ใจเรื่องความกลมเกลียวและมีประสิทธิภาพไปกว่าคริสตัลกลมอีกแล้ววางคริ สตัลขนาดต่างๆ กันหกลูกไว้ในพื้นที่ที่คุณกำหนดรู้ว่าเป็นพื้นที่ของคุณวิธี นี้จะทำให้คุณมั่นใจว่าการใช้เวลาของคุณในที่ทำงานจะน่าพึงพอใจและได้รับผล ตอบแทนลูกคริสตัลถือเป็นพลังอันยิ่งใหญ่และทรงประสิทธิภาพในยุค 8 นี้

• หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่ในพื้นที่ที่จัดวางแบบประจัญหน้า

จัดวางโต๊ะทำงาน ของคุณไม่ให้หันไปปะทะกับใครโดยตรงการนั่งหันหลังให้ผู้อื่นจะเป็น การดีกว่าการถูกจัดให้นั่งเผชิญหน้ากันโดยตรงทั้งนี้เพราะการหันหน้า เข้าหาผู้อื่นนานเข้าจะก่อเกิดเป็นพลังแห่งการปะทะกันระหว่างคุณและบุคคลผู้ นั้นถึงแม้ว่าคุณจะเป็นลูกจ้างทำงานให้คนอื่นและไม่สามารถเปลี่ยนผัง ทั้งหมดในสำนักงานก็ตามแต่อย่างน้อยขอให้แน่ใจว่าโต๊ะทำงานของคุณไม่ ได้ถูกจัดวางอยู่ในข่ายนี้

• เลือกเก้าอี้ที่เหมาะสม

เก้าอี้ที่ คุณนั่งทำงานจะรองรับในเรื่องที่ว่าอาชีพการงานของคุณจะไปได้ดีแค่ไหนเนื่อง จากคุณต้องนั่งเก้าอี้ตัวนี้ครั้งหนึ่งเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะที่โต๊ะทำงานดัง นั้นจงหาเก้าอี้ที่ออกแบบได้เหมาะเจาะลงตัวเพื่อป้องกันความตึงเครียดที่ หลังและคอเก้าอี้ Herman Miller เป็นเก้าอี้ในสำนักงานที่วิเศษเพราะได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้สามารถ ลดความปวดเมื่อยและความตึงเครียดได้ ทำให้คุณสามารถนั่งนานๆ ได้โดยไม่รู้สึกเมื่อยล้าหรืออึดอัดในทางกลับกัน เก้าอี้ที่ใช้สำหรับรับรองแขกไม่จำเป็นต้องนั่งสบายจนเกินไปนักเพื่อ ไม่ให้แขกนั่งอ้อยอิ่งอยู่นานเกินไป! เมื่อจะเลือกชุดโซฟาหรือที่นั่งสำหรับห้องประชุมให้เลือกหาแบบที่ไม่ ต้องดูน่าสบายจนเกินไปด้วยเหตุผลอย่างเดียวกันชุดโซฟาที่แข็งหน่อยยัง ช่วยสร้างพลังชี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเหมาะกับที่ทำงานมากขึ้นอีกด้วย

• อย่านั่งใกล้กับประตูมากจนเกินไป

การนั่งติดประตูมากเกิน ไป โดยเฉพาะถ้าเป็นประตูหน้าในสำนักงานที่มีผังเปิดโล่งด้วยแล้วถือ เป็นตำแหน่งการนั่งที่ไม่ได้รับการปกป้องและถูกจู่โจม หากผังของสำนักงานมีลักษณะเช่นนั้นก็จะต้องมีใครสักคนนั่งอยู่ชิดประตู มากกว่าคนอื่นๆ และหากคนคนนั้นเกิดเป็นคุณเสียด้วยจงพยายามนั่งใน ลักษณะที่เลี่ยงไม่ให้หลังของคุณหันเข้าหาประตู และต้องแน่ใจว่าคุณมองเห็นประตูตลอดเวลาเพื่อที่คุณจะได้เห็นคนที่เดิน เข้ามาใกล้ และต้องแน่ใจทบสองด้วยว่าคุณมีสัญลักษณ์จำเป็นที่ช่วยด้าน การสนับสนุนไว้กับตัวเพื่อต่อต้านพลังแง่ลบที่เกิดจากตำแหน่งโต๊ะทำงาน ลักษณะนี้ และหากมีโอกาสได้ย้ายโต๊ะ ก็ให้รีบทำเสียเลย

• จัดเก็บสิ่งของที่ระเกะระกะ

โต๊ะทำงานที่ระเกะระกะจะบั่นทอนประสิทธิภาพ ในการทำงานได้อย่างไม่ต้องสงสัยจงถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกทุกเช้า ในการใช้เวลาสัก 10 นาทีปัดกวาดบริเวณที่นั่งทำงานของคุณอย่าปล่อยให้ หนังสือพิมพ์ หนังสือและเครื่องใช้สำนักงานวางรกอยู่ในพื้นที่ทำงานของคุณคน ที่ชอบพูดว่า "รกอย่างมีระเบียบ" ไม่ได้ชอบที่จะมีโต๊ะทำงานรกๆ หรอกและ จะประหลาดใจด้วยซ้ำที่พบว่าตัวเองทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นเมื่อนั่งทำ งานอยู่ในที่ที่ไม่ค่อยรกรุงรัง

• ระวังช่องหลืบที่มองไม่เห็น

ใน ขณะที่คุณจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบนั้น เป็นเรื่องง่ายดีถ้าจะแค่โกยเอาบรรดาเอกสารและกระดาษที่ไม่ต้องการเข้า ไปในลิ้นชักและช่องเก็บที่มองไม่เห็นอย่างลวกๆถึงแม้ว่ามันจะทำให้ภาย นอกของโต๊ะทำงานดูดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้จะพอกพูน "ชี่"นิ่งซึ่ง ส่งผลร้ายต่อความสำเร็จในที่ทำงานให้กับคุณโดยไม่ทันสังเกต อย่าละเลยลิ้นชักและช่องเก็บของ ให้ถือเป็นเรื่องสำคัญเสมอในการหมั่น ตรวจตราและจัดลิ้นชักให้เป็นระเบียบ และทิ้งบรรดาสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วไปเสีย

• หลีกเลี่ยงขอบและมุมคมๆ

คุณ ต้องแน่ใจว่าไม่มีขอบมุมแหลมคมชี้ตรงมายังจุดที่คุณนั่ง ขอบมุมที่แหลมคมถือเป็นศรพิฆาตที่ส่ง "ซาชี่"หรือปราณพิฆาต มาหาคุณ พลังพิฆาตที่ถูกปล่อยมาหาคุณไม่เพียงแต่จะกีดขวางความสำเร็จทางอาชีพการ งานของคุณเท่านั้น แต่ะจะทำให้คุณเจ็บไข้ได้ป่วย ถูกหลอกลวง หรือถูกใส่ร้ายในเรื่องต่างๆ อีกด้วย

• นั่งทำงานท่ามกลางแสงที่ดี

สำนัก งานที่ออกแบบมาอย่างดีคือสำนักงานที่มีการจัดวางแสงไว้แล้วอย่างดี แสงธรรมชาติถือเป็นแสงที่ดีที่สุดดังนั้นพยายามให้มีหน้าต่างมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตามหน้าต่างที่ยาวครึ่งหนึ่งจะดีกว่าแบบที่ ยาวเต็มบานสำหรับพื้นที่ที่จัดวางโต๊ะทำงานหน้าต่างที่ยาวเต็มบานจะนำ พลังหยางเข้ามามากเกินไป ซึ่งจะทำให้คุณไม่ค่อยมีสมาธิและยังก่อให้เกิดความ รู้สึกเหมือนถูกจู่โจม สำนักงานที่อยู่ชั้นใต้ดินซึ่งมีหน้าต่างไม่กี่บานหรือไม่มีเลยก็มักไม่ค่อย เป็นมงคลในการที่จะเสริมแสงจากธรรมชาติ วิธีที่ดีที่สุดคือการจัดแสงเสป็กทรัม ซึ่งเลียนแสงธรรมชาติที่จะนำมาซึ่ง ทัศนวิสัยที่ชัดเจน สุขภาพ และประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อีกวิธีหนึ่งในการจัดลักษณะแสงไฟคือ แสงขาวตัดกับแสงเหลือง แสงไฟสีขาวจะดีสำหรับสำนักงานมากกว่า เพราะสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นสบายมาก เกินไปอันเกิดจากแสงสีเหลืองจะไปชะลอศักยภาพในการทำงาน

• นั่งหันหน้าไปทางทิศเซิ่งชี่ (ทิศสุขภาพ)ของคุณ

ทิศทางที่ดีที่สุดที่ สร้างความมั่นใจด้านความสำเร็จในอาชีพทำงานและการประกอบธุรกิจก็คือ การ เข้าหาทิศเซิ่งชี่ของคุณด้วยการหันหน้าไปยังทิศทางนั้นๆ คุณสามารถหาทิศเซิ่งชี่ของคุณได้จากหมายเลข "กัว" ประจำตัวคุณ โดยใช้หลักเรือนธาตุทั้งแปด หากคุณไม่สามารถเข้าหาทิศเซิ่งชี่ของคุณได้ให้ พยายามนั่งหันหน้าไปยังทิศมงคลทิศใดทิศหนึ่งในบรรดาทิศมงคลอื่นๆ ทั้งสามของคุณและถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างที่สุดที่จะต้องติดเข็มทิศพก พาเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อที่ว่าเวลาที่คุณเข้าร่วมการประชุมนอกพื้นที่แสน สะดวกของโต๊ะทำงานคุณ คุณจะได้จัดแจงให้ตัวเองนั่งหันหน้าไปยังทิศทางที่ดีเท่า นี้คุณก็จะมีความเป็นต่อเมื่อคุณต้องติดต่อกับผู้อื่น จงปฏิบัติเช่นนี้ให้เป็นนิสัยติดตัวตลอดชีวิต

 การจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่ห้องทำงาน

การหาเฟแร์นิเจร์ที่มีคุณภาพดีๆมาตกแต่งในห้องทำงานของคุณ มันไม่ง่ายเลยที่จะดูว่าเฟอร์นอเจอร์ชิ้นไหนได้มาตรฐานที่ดี การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพมาตกแต่งในห้องทำงาน ควรเลือกที่ระยะเวลาการใช้งาน หรือระดับมาตรฐานของเฟอร์นิเจอร์ตัวนั้นๆ หรือสำหรับคนที่ชื่นชอบห้องทำงานที่มีดีไซน์เก๋ๆก็สามารถเลือกโต๊ะ หรือเก้าอี้ทำงาน ให้ทันสมัย มีรูปแบบดีไซน์น่ารักๆตามสไตล์ที่ชอบ การตกแต่งห้องทำงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้อยากจะทำงานมากขึ้น สำหรับใครที่อยากให้ห้องทำงานมีความปลอดโปร่งขึ้นแนะนำให้หาต้นไม้ประดับมาวางไว้ในห้องทำงาน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณผ่อนคลายเวลาทำงานมากขึ้นและไม่รู้สึกอึดอัด

 การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน

การดูแลรักษาความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพราะการดูแลความสะอาดเฟอร์นิเจอร์เหมือนกับเป็นตัวที่ทำให้ภาพลักษณ์ภายในบ้านดูน่ามองยิ่งขึ้น ดูเป็นบ้านที่มีการรักษาความสะอาด และยิ่งถ้าปล่อยให้ฝุ่นมาเกาะตามเก้าอี้โซฟายิ่งทำให้อากาศภายในบ้านไม่ค่อยน่าอยู่สักเท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงควรหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ข้าวของภายในบ้านให้ติดเป็นนิสัยเพื่อที่จะป็นบ้านที่น่าอยู่และภายในบ้านก็จะมีอากาศที่ปลอดโปร่งและน่าอยู่ที่สุด

 การดูแลรักษาอุปกรณ์ในสำนักงานให้เป็นระเบียบ

อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ในสำนักงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกโต๊ะ ตู้ เก้าอี้ และชั้นวางของต่างๆ ถ้าเราดูแลรักษาทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ

ก็จะสามรถยืดระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น และก็มีสภาพที่ใหม่เหมือนเดิม การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานหรือ

ในออฟฟิตของคุณมันไม่ได้ทำให้เสียเวลามากมาย ควรทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละ2-3ครั้ง เพื่อห้องทำงานที่สบายตาและไม่

ดูรกสกปรก ในเวลาทำงานก็จะรู้สึกปลอดโปร่งนั่งทำงานได้สบายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ควรละเลยในการทำความสะอาดอุปกรณ์และ

สิ่งของต่างๆในห้องทำงานหรือในออฟฟิตของคุณ

 การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ในที่ทำงาน

ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือจะที่บ้านของคุณเองคุณก็ควรที่จะดูแลสิ่งของของคุณให้สภาพดีเหมือนตอนซื้อมา

การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ได้เสียเวลาไปมากนักเพียงแค่คุณทำความสะอาดให้เป็นประจำ เพราะเฟอร์นิเจอร์บางชนิดถ้าเราไม่

ดูแลรักษาก็มีระยะเวลาการใช้งานที่ไม่ค่อยนาน เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในที่ทำงาน ก็ควรที่หมั่นดูแลรักษาอยู่

สม่ำเสมอ เพื่อจะได้ดูใหม่และคุณภาพก็ยังคงทนเหมือนตอนซื้อมาใหม่

ไม้อัด

สร้างขึ้นจากการนำไม้มารวมกันหลายๆ ชนิด หรือผลิตจากไม้ชนิดเดียวกัน โดยขั้นตอนในการผลิตนั้น จะนำท่อนซุงมาตัดให้เป็นท่อนยาวตามมขนาดที่ต้องการ แล้วก็ทำการกลึงปอกเพื่อเอาเปลือกไม้ออกไป แล้วทำการฝานให้เป็นแผ่นบางๆ โดยจะให้มีความหนาตั้งแต่ 1 มิลลิเมตร ถึง 4 มิลลิเมตร และนำมาทำการอัดให้ติดกันดดยใช้กาวเป็นตัวประสาน โดยการกำหนดให้แต่ละแผ่นนั้นมีแนวเสี้ยนที่ตั้งฉากกัน แล้วก็นำไปอบแห้งภายในเตาอบ โดยขนาดมาตรฐานที่ผลิตกันออกมาจะมีขนาด 4x8 ฟุต หนาตั้งแต่ 4,6,8,10,15 ไปกระทั่ง 20 มิลลิเมตร ซึ่งในแต่ละแห่งนั้น ก็อาจจะมีการเลือกใช้วัสดุและตัวประสานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็จะเห็นได้ว่ามีคุณภาพต่างๆ กัน และราคาก็แตกต่างกัน

คุณสมบัติของไม้อัด

• มีความแข็งแรงและทนทานเป็นอย่างมาก คงตัว ยืดหรือหดได้น้อย และแตกได้ง่าย
• สามารถตอกตะปูหรือขันตะปูควงได้รอบด้านแม้จะอยู่ใกล้ขอบแผ่นก็ตาม
• เลื่อย ตัด หรือฉลุได้อย่างง่ายดาย โค้งงอได้ดีไม่แตกหรือหัก
• เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี
• สามารถที่จะรองรับน้ำหนักได้มากกว่าไม้ธรรมดา

ประโยชน์การใช้งาน

• ใช้เป็นแบบหล่อเสาคอนกรีตได้เป็นอย่างดี
• ใช้ในอุตสาหกรรมในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่างแพร่หลาย
• ใช้ทำกล่องไม้บรรจุผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่
• รองรับน้ำหนักที่นอนหรือเตียง
• ใช้ปิดเป็นผนังห้องหรือฝ้าเพดานได้ดี